การป้องกันตัวเป็นเรื่องสำคัญในการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล นี่คือบางแนวทางที่คุณสามารถใช้เพื่อป้องกันตัวได้:

  1. ระมัดระวังในสถานการณ์ที่เสี่ยง : ระวังและรู้สึกตัวในสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ ในที่สาธารณะหรือในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น รักษาระยะห่างจากบุคคลที่ไม่รู้จักหรือต้องการความร่วมมือกับผู้อื่นในการเฝ้าระวัง
  2. เรียนรู้ทักษะการป้องกันตัว : เรียนรู้ทักษะเบื้องต้นในการป้องกันตัว เช่น วิธีการเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยง ทริคในการตอบสนองในสถานการณ์เชิงก่อกวน และวิธีการที่เหมาะสมในการรักษาความปลอดภัยของตัวเอง
  3. ออกกำลังกายและรักษาสุขภาพ : การออกกำลังกายและรักษาสุขภาพที่ดีช่วยเสริมสร้างร่างกายและจิตให้แข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งทำให้คุณมีความพร้อมที่ดีกว่าในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เสี่ยง.
  4. ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ช่วยป้องกันตัว : ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น ระบบกล้องวงจรปิดหรืออุปกรณ์ตรวจจับการบุกรุก เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านหรือสถานที่ของคุณ
  5. ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ : รู้จักและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่น ไม่ใช้วิธีการที่ผิดกฎหมายในการป้องกันตัว.

การป้องกันตัวเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและสามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจและการรับรู้สภาพแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันตัวเอง และหากคุณรู้สึกว่ามีอันตรายหรือสถานการณ์ที่เสี่ยง ควรรีบหาความช่วยเหลือจากแหล่งที่มีความเชี่ยวชาญหรือองค์กรที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยใกล้เคียง อย่างเช่น ตำรวจหรือหน่วยงานด้านการรักษาความปลอดภัย

ยกตัวอย่างคดีความที่เกินกว่าเหตุ หรือ สมควรแก่เหตุ

การตัดสินคดี การป้องกันตัว

การป้องกันตัวที่เกินกว่าเหตุ

ฎีกาที่ ๒๗๑๗/ ๒๕๒๘ : คนตายยืนถือมีดอยู่ห่าง ๒ วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่
จะฟันทำร้ายจำเลย การที่จำเลยด่วนยิงคนตายไปก่อน
เป็นการป้องกันจริง แต่เกินกว่าเหตุ

ฎีกาที่ ๔๐๕ / ๒๔๙๐ : จำเลยเฝ้าไร่พืชผัก คนตายเข้าไปในไร่ เวลากลางวันเพื่อ
จะลักพืชผัก จำเลยจึงใช้ปืนยิงคนตาย เป็นการป้องกันจริง แต่เกินกว่าเหตุ

ฎีกาที่ ๑๓๔๓ / ๒๔๙๕ : ยิงคนร้ายขณะกำลังวิ่งหนีและพาเอาห่อของที่ลักไปด้วย
โดยคนร้ายไม่ได้ทำอะไรแก่ตนเลย เป็นการป้องกันตัว แต่เกินกว่าเหตุมาก

การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ

ฎีกาที่ ๑๗๓๒ /๒๕๐๙ : คนตายชักมีดพกจากเอวมาถือไว้ แล้วเดินเข้ามาหาจำเลย
ระยะกระชั้นชิด จำเลยยิงสวน ๑ ที คนตายยังเดินต่อเข้ามาอีก จึงยิงสวน อีก ๑ ที
ล้มลงตาย เป็นป้องกันสมควรแก่เหตุ

ฎีกาที่๑๖๙ / ๒๕๐๔ : คนตายเมาสุราร้องท้าทายจำเลยให้มาต่อสู้กัน
จำเลยไม่สู้ คนตายถือมีดดาบปลายแหลมลุยน้ำข้ามคลอง จะเข้าไปฟันจำเลย
ถึงในบ้าน จำเลยไม่หนีเพราะบ้านตัวเอง และใช้ปืนยิงสวนไป ๑ นัด
ขณะที่คนตายอยู่ห่าง ๖ ศอกถึง ๒ วา เป็นการป้องกันสมควรแก่เหตุ

ฎีกาที่ ๑๒๕๖ /๒๕๓๐ : คนตายบุกรุกเข้าไปฉุดลูกสาวในบ้านจำเลย
เมื่อมารดาเด็กเข้าห้ามถูกคนร้ายตบหน้า แล้วจะฉุดพาลูกสาวออกบ้าน
จำเลยยิงไปทันที ๔ นัด เป็นป้องกันที่สมควรแก่เหตุ

ข้อมูลโดย : www.gotoknow.org

ระบบ ESS ของ SKT Security เป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นที่จะช่วยลดการเกิดคดีความเหล่านี้ได้

ระบบรักษาความปลอดภัย by Skt Security

ขั้นตอนการทำงานของระบบ ESS

*ฟรีอุปกรณ์เซ็นเซอร์ทุกจุดและศูนย์ควบคุม 24 ชม.

1. แจ้งเหตุ : เมื่อเกิดเหตุจะมีสัญญาณแจ้งเตือนมาที่ศูนย์ควบคุม(GC) และที่มือถือลูกค้า ศูนย์จะทำการโทรแจ้งลูกค้าทันทีเพื่อยืนยันการเกิดเหตุ

2. ตรวจสอบเหตุ : GC ประสานหน่วยเคลื่อนที่เร็ว(SO)ในพื้นที่ ที่ใกล้ที่สุดเข้าตรวจสอบ

3. ระงับเหตุ : SO เข้าพื้นที่เสี่ยงด้วยความรวดเร็วและรัดกุมเพื่อระงับเหตุเบื้องต้น

4. รายงานเหตุ : แจ้งเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าจับกุม สอบสวน และแจ้งสรุปเหตุการณ์ให้ลูกค้าทราบทั้งหมด

========================

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระบบ ESS จะทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ท่านตลอด 24 ชม. โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุม(GC) และ หน่วยเคลื่อนที่เร็ว(SO)

ช่วยให้ท่านคลายกังวลในชีวิตอันมีค่าและทรัพย์สิน พร้อมกับได้รับความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย

SKT SECURITY เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด

ในประเทศใต้หวัน, ประเทศจีน และประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติม >> www.sktsecurity.co.th/ess

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *