ในปัจจุบันกล้องวงจรปิดมีความจำเป็นมากขึ้นสำหรับทุกองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสมของแต่ละองค์กร ดังนั้นการนำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ เช่น อาคาร, โรงงาน, ออฟฟิศ, บ้านพัก, โรงเรียน, ท้องถนน, โรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งแต่ละพื้นที่มีความเฉพาะเจาะจงแตกต่างกันออกไป จึงสรุปการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้พอสังเขป เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกใช้งาน แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้

1. กล้องวงจรปิดแบบมาตรฐาน (Standard Camera)

กล้องวงจรปิดแบบมาตรฐาน แบ่งออกเป็น 3 ระบบหลัก ดังนี้

  1. แบบ Analog : เป็นระบบแรกที่ใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน ใช้สายชนิดโคแอคเชียล เพื่อนำสัญญาณจาก CCTV ส่งผ่านไปยังเครื่องบันทึกภาพ DVR (ข้อดี : ราคาถูก ข้อเสีย : สัญญาณรบกวนง่าย, ระยะการเดินสายสั้น )
  2. แบบ Digital : เป็นระบบ IP เป็นที่นิยมในปัจจุบันมากกว่าแบบ Analog เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถแก้ไขได้จากระยะไกลกรณีที่กล้องมีปัญหา ใช้สายชนิด UTP เพื่อนำสัญญาณจาก CCTV ส่งผ่านไปยังเครื่องบันทึกภาพ NVR (ข้อดี : สัญญาณเสถียร, ติดตั้งได้ไกลกว่า, ติดตั้งง่ายกว่า ข้อเสีย : ราคาแพงกว่า)
  3. แบบ Wifi : เป็นระบบที่นิยมติดตั้งตามบ้านพัก เพราะติดตั้งง่าย สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเองและดูกล้องผ่านมือถือได้ แต่ไม่เหมาะกับอาคาร, ออฟฟิศ, โรงงาน, ร้านค้าขนาดกลาง-ขนาดใหญ่ (ข้อดี : ราคาถูก, ติดตั้งง่าย ข้อเสีย : ใช้ได้ในพื้นที่จำกัด, ระยะทางขึ้นอยู่กับสัญญาณ Wifi)

2. กล้องโดม ( Dome Camera) : เหมาะสำหรับติดตั้งภายในอาคาร

กล้องโดม ส่วนมากมักจะถูกนำมาติดตั้งในอาคารไม่ใช่พื้นที่กลางแจ้ง

เนื่องจากมีขนาดเล็กกระทัดรัด, รูปทรงสวยงาม เมื่อติดตั้งแล้วจะไม่เป็นจุดสังเกต เข้ากับทุกพื้นที่ได้ดี เหมาะกับทุกรูปแบบอาคาร แต่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถเปลี่ยนเลนซ์ได้

ข้อดี : เลนส์เป็นแบบปรับไม่ได้้ ทำให้ไม่ต้องตั้งมุมกล้องใหม่บ่อยๆ การดูแลรักษาง่าย ไม่ซับซ้อน

ข้อเสีย : ระยะในการมองเห็นที่สั้นทำให้ไม่เหมาะกับการตรวจจับภาพในระยะไกล

3. กล้องบูลเล็ต (Bullet Camera) : เหมาะสำหรับติดตั้งภายนอกอาคาร

กล้องบูลเล็ต (Bullet) ถือเป็นกล้องที่นิยมติดบริเวณรอบบ้าน, อาคาร เพราะมีความสามารถในการมองเห็นในเวลากลางคืนบริเวณพื้นที่ที่มีแสงน้อยได้ เหมาะกับการตรวจจับสิ่งผิดปกติในเวลากลางคืน

ข้อดี : ทนแดดและฝน มาตราฐาน IP67, สามารถมองเห็นในเวลากลางคืน

ข้อเสีย : ระยะการมองเห็นในที่แสงน้อยขึ้นอยู่กับระยะอินฟาเรด

4. กล้องสปีดโดม(PTZ) : เหมาะสำหรับพื้นที่กว้างทั้งในและนอกอาคาร

กล้องสปีดโดม(PTZ) มีลักษณะคล้ายกล้องโดมแต่มีขนาดที่ใหญ่กว่าและสามารถปรับควบคุมขึ้น, ลง, ซ้าย, ขวา และ ซูมเข้า-ออก ได้อย่างอิสระ สามารถใช้ติดตั้งแทนกล้องหลายๆตัวได้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งกล้องวงจรปิดได้เป็นอย่างมาก

ข้อดี : สามารถปรับกล้องได้อิสระ, ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง

ข้อเสีย : ต้องมีเจ้าหน้าที่ควบคุมกล้องตลอดทั้งวัน

5. กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว(AI) : เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง

ในปัจจุบันจึงมีการพัฒนาระบบกล้องวงจรปิดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น (ยกตัวอย่างแบรนด์ Hikvision) โดยเพิ่มระบบ AI(Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์เข้าไปในอุปกรณ์ประมวลผลของกล้องเพื่อให้สามารถตรวจจับและแจ้งเตือนเหตุการณ์ทันทีเมื่อมีผู้บุกรุกเข้าในพื้นที่ที่กำหนดไว้ เรียกว่าระบบ AcuSense

AcuSense คือเทคโนโลยีที่ทำให้ความแม่นยำในการตรวจจับเพิ่มขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี Deep Learning
เข้ามาช่วยทำให้มีอลามที่ผิดพลาดน้อยลง

ด้วยการเพิ่มความชาญฉลาดให้กับกล้องและเครื่องบันทึกวิดีโอยอดนิยมของ Hikvision เทคโนโลยี AcuSense
ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถเข้าถึงได้และชาญฉลาด!

ข้อดี : มีโอกาสในการจับคนร้ายได้เร็วขึ้น, กำหนดพื้นที่ตรวจจับได้, ค้นหาได้รวดเร็วขึ้น, แจ้งเตือนทันที

ข้อเสีย : ราคาสูงกว่ากล้องทั่วไป

“อ่านมาถึงตรงนี้เพื่อนๆ คงรู้จักกล้องวงจรปิดในรูปแบบต่างๆ มากขึ้นแล้ว เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสถานที่ของท่าน

มีอีกหนึ่งปัญหาที่น่ากังวล คือ ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดแล้ว มีการแจ้งเตือนทันทีแต่ก็ถูกคนร้ายลักขโมยอยู่ดี เพราะอาจพักผ่อนอยู่หรือไม่ได้ใช้มือถือในขณะที่เกิดเหตุ

ระบบ ESS ของ SKT SECURITY ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร?

ขั้นตอนการทำงานของระบบ ESS

*ฟรีอุปกรณ์เซ็นเซอร์ทุกจุดและศูนย์ควบคุม 24 ชม.

1. แจ้งเหตุ : เมื่อเกิดเหตุจะมีสัญญาณแจ้งเตือนมาที่ศูนย์ควบคุม(GC) และที่มือถือลูกค้า ศูนย์จะทำการโทรแจ้งลูกค้าทันทีเพื่อยืนยันการเกิดเหตุ

2. ตรวจสอบเหตุ : GC ประสานหน่วยเคลื่อนที่เร็ว(SO)ในพื้นที่ ที่ใกล้ที่สุดเข้าตรวจสอบ

3. ระงับเหตุ : SO เข้าพื้นที่เสี่ยงด้วยความรวดเร็วและรัดกุมเพื่อระงับเหตุเบื้องต้น

4. รายงานเหตุ : แจ้งเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าจับกุม สอบสวน และแจ้งสรุปเหตุการณ์ให้ลูกค้าทราบทั้งหมด

========================

ระบบ ESS จะทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ท่านตลอด 24 ชม. โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุม(GC) และ หน่วยเคลื่อนที่เร็ว(SO)

หน่วยเคลื่อนที่เร็ว SO Skt

ช่วยให้ท่านคลายกังวลในชีวิตอันมีค่าและทรัพย์สิน พร้อมกับได้รับความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย

SKT SECURITY เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด

ในประเทศใต้หวัน, ประเทศจีน และประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติมระบบ ESS >>www.localhost/fix

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *