สัญญาณกันขโมย แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก คือ
- สัญญาณกันขโมยไร้สาย คือ การติดตั้งสัญญาณกันขโมยโดยไม่ต้องเดินสายสัญญาณนั่นเอง เป็นระบบไวไฟ และในปัจจุบันเป็นที่นิยมมาก เพราะติดตั้งง่าย สามารถติดตั้งด้วยตัวเองได้
- สัญญาณกันขโมยแบบเดินสาย คือ การติดตั้งสัญญาณกันขโมยแบบดั้งเดิม เป็นการเดินสายสัญญาณโดยการร้อยสายสัญญาณผ่านท่อ PVC เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน แต่ต้องมีช่างผู้ชำนาญติดตั้งระบบให้
สรุปข้อดี-ข้อเสีย ในการติดตั้งสัญญาณกันขโมยแบบต่างๆ
สัญญาณกันขโมยไร้สาย (Wireless System)
ข้อดี
- ติดตั้งสะดวกสามารถติดตั้งเองได้
- มีความทันสมัย
- ไม่ต้องเจาะกำแพงในการเดินท่อร้อยสายสัญญาณ
ข้อเสีย
- การติดตั้งอุปกรณ์ด้วยตัวเองอาจเกิดสัญญาณหลอก (False Alarm) ได้เนื่องจากไม่มีความชำนาญในการติดตั้งอุปกรณ์
- อุปกรณ์แต่ละจุดจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่
- อุปกรณ์มีราคาสูงเนื่องจากเป็นระบบไร้สาย
สัญญาณกันขโมยแบบเดินสาย (Wired System)
ข้อดี
- ติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญ
- ระบบมีความเสถียรกว่าแบบไร้สาย
- ราคาอุปกรณ์ถูกกว่าแบบไร้สาย ทำให้สามารถติดตั้งได้หลายจุดมากขึ้น
ข้อเสีย
- การติดตั้งจำเป็นต้องเดินท่อร้อยสายสัญญาณ
- มีค่าติดตั้งและอุปกรณ์เดินสายสัญญาณ
สรุป
ในการติดตั้งสัญญาณกันขโมยทั้ง 2 รูปแบบ มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน ผู้เขียนเลือกการติดตั้งสัญญาณกันขโมยแบบเดินสาย เพราะ อุปกรณ์มีราคาต่ำกว่าเมื่อเทียบกับแบบไวไฟทำให้ติดตั้งได้หลายจุด แม้จะต้องจ่ายเพิ่มในส่วนของการติดตั้งและอุปกรณ์เดินสายสัญญาณ อีกทั้งยังมีช่างผู้ชำนาญติดตั้งให้ทั้งระบบทำให้มั่นใจได้ว่าระบบใช้งานได้ 100% และไม่ต้องกังวลกับอุปกรณ์ที่อาจมีปัญหาในอนาคตได้
และจะดีกว่าไหม หากมีคนที่พร้อมเข้าพื้นที่เสี่ยงทันที!
เมื่อเกิดเหตุด่วน-เหตุร้ายกับคุณ?
ระบบสัญญาณเตือนภัยอิเล็กทรอนิกส์ (ESS) เป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน และมีความปลอดภัยสูงสุดเป็นการผสมผสานระหว่าง “ระบบสัญญาณเตือนภัยอิเล็กทรอนิกส์ และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเหตุตลอด 24 ชั่วโมง” เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือสัญญาณแจ้งเตือนจากระบบ ทีมเจ้าหน้าที่จะทำหน้าที่เข้ายับยั้งเหตุเบื้องต้น ณ สถานที่เกิดเหตุ พร้อมประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง หรือรถฉุกเฉิน พร้อมแจ้งให้ผู้ดูแลรับทราบเหตุทันที
“ปลอดภัยกว่าเพราะ ผู้เช่าระบบ ESS ไม่ต้องเข้าพื้นที่เสี่ยงด้วยตัวเอง”
ขั้นตอนการทำงานของระบบ ESS
*ฟรีอุปกรณ์เซ็นเซอร์ทุกจุดและศูนย์ควบคุม 24 ชม.
1. แจ้งเหตุ : เมื่อเกิดเหตุจะมีสัญญาณแจ้งเตือนมาที่ศูนย์ควบคุม(GC) และที่มือถือลูกค้า ศูนย์จะทำการโทรแจ้งลูกค้าทันทีเพื่อยืนยันการเกิดเหตุ
2. ตรวจสอบเหตุ : GC ประสานหน่วยเคลื่อนที่เร็ว(SO)ในพื้นที่ ที่ใกล้ที่สุดเข้าตรวจสอบ
3. ระงับเหตุ : SO เข้าพื้นที่เสี่ยงด้วยความรวดเร็วและรัดกุมเพื่อระงับเหตุเบื้องต้น
4. รายงานเหตุ : แจ้งเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าจับกุม สอบสวน และแจ้งสรุปเหตุการณ์ให้ลูกค้าทราบทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง
- กล้องวงจรปิดแบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณ?
- ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
- กล้อง AI จับภาพคนร้ายแจ้งเตือนทันทีที่มือถือ!
- 4 เทคนิคการวางระบบกันขโมยให้อยู่หมัด
ระบบ ESS จะทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ท่านตลอด 24 ชม. โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุม(GC) และ หน่วยเคลื่อนที่เร็ว(SO)
ช่วยให้ท่านคลายกังวลในชีวิตอันมีค่าและทรัพย์สิน พร้อมกับได้รับความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
SKT SECURITY เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบรักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด
ในประเทศใต้หวัน, ประเทศจีน และประเทศไทย
ข้อมูลเพิ่มเติม >> www.localhost/fix